โครงการภายใต้เป้าหมายการส่งเสริมการศึกษา/ทักษะด้าน STEM ในทุกระดับเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
บี.กริม เพาเวอร์ มุ่งมั่นพัฒนาองค์ความรู้และทักษะด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (Science, Technology, Engineering, and Mathematics: STEM) ในทุกระดับชั้น ผ่านการออกแบบเนื้อหาและการฝึกอบรมให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยแบ่งโครงการออกเป็น 2 ระดับ ได้แก่ 1) ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานซึ่งครอบคลุมตั้งแต่นักเรียนปฐมวัย ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และนักเรียนสายอาชีพก่อนระดับอุดมศึกษา และ 2) ระดับอุดมศึกษา ประกอบด้วยนักศึกษามหาวิทยาลัยและวิทยาลัยอาชีวะศึกษา โดยมีเป้าหมายในการเสริมสร้างความรู้และทักษะที่ตอบโจทย์อนาคต เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำไปพัฒนาตนเองและเติบโตในสายอาชีพได้อย่างมั่นคง
ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เรามุ่งมั่นส่งเสริมการวางรากฐานทักษะการเรียนรู้ด้าน STEM ให้กับนักเรียนระดับปฐมวัยและประถมศึกษา โดยตั้งเป้าหมายในการสนับสนุนการเรียนรู้ให้นักเรียนกว่า 400,000 คน ภายในปี 2573 ผ่านโครงการต่าง ๆ โดยมีโครงการที่โดดเด่น ดังนี้
โครงการบ้านนักวิทยาศาตร์น้อย ประเทศไทย

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาพระราชทานพระราชดำริให้ริเริ่มโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยในประเทศไทย โดยประสานความร่วมมือกับมูลนิธิ Haus der kleinen Forscher เพื่อทดลองดำเนินโครงการนำร่องในประเทศไทย ด้วยความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน 8 ภาคเครือข่าย ซึ่ง บี.กริม เพาเวอร์ เป็นหนึ่งในภาคีเครือข่ายตั้งแต่เริ่มต้น และยังคงขยายผลโครงการต่อเนื่อง โครงการนี้มุ่งปลูกฝังความสนใจด้านวิทยาศาสตร์ให้แก่เด็กตั้งแต่ปฐมวัยอายุระหว่าง 3-6 ขวบ พร้อมขยายแนวคิดสู่ระดับประถมศึกษา ผ่านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การพัฒนาสื่อการสอน การอบรมครูผู้สอน และการทำกิจกรรมสู่กลุ่มครอบครัว
นับตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ สนับสนุนโรงเรียนในเครือข่ายท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมี 135 แห่ง อยู่ภายใต้การดูแลของเรา โดยมุ่งเน้นการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ผ่านการอบรมครู โดยจัดสรรให้พนักงานทำหน้าที่ “นักวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรพี่เลี้ยง” เพื่อร่วมสอนและทำกิจกรรมกับครูโรงเรียนในเครือข่าย เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การเรียนรู้ที่ตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการ นอกจากนี้ โครงการยังได้ขยายขอบเขตสู่การศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Education for Sustainable Development: ESD) โดยประยุกต์แนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติให้เหมาะสมกับเด็กปฐมวัยและประถมศึกษา โดยมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนมุมมองจากแนวคิดที่มนุษย์เป็นศูนย์กลาง (Human Centre) สู่แนวคิดที่ให้โลกเป็นศูนย์กลาง (Earth Centre) ของการพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ที่จะต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน ซึ่งจะส่งให้ผู้เรียนเกิดความตระหนัก (Realise) นำไปสู่การลงมือแก้ไขปัญหา (Act) และเสริมศักยภาพ (Empowerment) อาทิ ปัญหามลพิษและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผ่านการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติจริง (Action)
นอกจากนี้ในปี 2567 มีโรงเรียนในเครือข่ายของ บี.กริม เพาเวอร์ กว่า 62 แห่ง ที่ผ่านการประเมินและได้รับมอบตราพระราชทาน "บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย ประจำปี 2567” สะท้อนถึงความสำเร็จโครงการในการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และการพัฒนาที่ยั่งยืนให้แก่เด็กไทย

ตัวชี้วัดประโยชน์ต่อธุรกิจ
- สอดคล้องกับหนึ่งในเป้าหมายของกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของบริษัทว่าด้วยการส่งเสริมการศึกษา/ทักษะด้าน STEM ในทุกระดับเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
- แสดงจุดยืนในการขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาและทักษะ STEM สู่สังคม (มูลค่าการประชาสัมพันธ์ 10.67 ล้านบาท ในปี 2567)
- เสริมสร้างบุคลากรที่มีศักยภาพ ซึ่งอาจเติบโตมาเป็นพนักงานที่มีทักษะสูงของบริษัทหรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในอนาคต
- ยกระดับทักษะของพนักงานผ่านบทบาท “นักวิทยาศาสตร์/วิศวกรพี่เลี้ยง” ที่เข้าร่วมจัดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับครูในเครือข่ายโรงเรียน (มีพนักงานเข้าร่วมเป็นพี่เลี้ยง 9 คน ในปี 2567)
ตัวชี้วัดประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม
- ยกระดับการศึกษาและวางรากฐานทักษะการเรียนรู้ด้าน วิทยาศาสตร์ให้กับเด็กปฐมวัยและประถมศึกษา (นับตั้งแต่เปิดโครงการมีโรงเรียนและนักเรียน ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ กว่า 196,322 คน)
- พัฒนาคุณภาพครูด้านเทคนิคการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยและประถมศึกษา (ในปี 2567 มีคุณครูที่เข้าร่วมอบรมในโครงการฯ กว่า 326 คน)
- สนับสนุนและสอดคล้องกับเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals–SDGs) ในเป้าหมายย่อยที่ 4.2 4.7 และ 8.6


โครงการ B.Grimm School Camp

โครงการ B.Grimm School Camp เป็นโครงการค่ายระยะสั้นที่มุ่งเสริมสร้างความรู้และความสัมพันธ์ระหว่างโรงไฟฟ้ากับชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง โดยส่งเสริมการมีส่วนร่วมและพัฒนาความรู้ให้กับเยาวชนผ่านแนวคิด STEM Education และองค์ความรู้จากโครงการ "บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย" เพื่อพัฒนาทักษะสำคัญ เช่น การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ การทำงานเป็นทีม และการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ กิจกรรมในโครงการจะเน้นเรื่องพลังงาน ซึ่งสอดคล้องกับธุรกิจของ บี.กริม เพาเวอร์ พร้อมผสานเนื้อหาด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และศิลปะ เพื่อสร้างการเรียนรู้ที่รอบด้าน สนุกสนาน และน่าจดจำ
ในปี 2567 เราได้ขยายโครงการฯ จากโรงไฟฟ้าบางกระดีไปยัง โรงไฟฟ้าบ่อวิน แหลมฉบัง มาบตาพุด และอ่างทอง ภายใต้หัวข้อ “พลังงานน้ำ” (Hydropower) โดยมีนักเรียนจาก 10 โรงเรียน เข้าร่วมโครงการรวม 384 คน ได้รับความพึงพอใจของนักเรียนและครูถึงร้อยละ 97.8 โดยมีพนักงานอาสาเข้าร่วมทำหน้าที่พี่เลี้ยงกว่า 164 คน
โครงการนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาทักษะด้าน STEM ให้กับเยาวชน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของอุตสาหกรรมสาธารณูปโภคไฟฟ้าและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งยังช่วยเตรียมความพร้อมให้เยาวชนก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 ด้วยทักษะที่สามารถต่อยอดสู่การศึกษาและอาชีพในอนาคตได้อย่างมั่นคง

ตัวชี้วัดประโยชน์ต่อธุรกิจ
- สอดคล้องกับหนึ่งในเป้าหมายของกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของบริษัทว่าด้วยการส่งเสริมการศึกษา/ทักษะด้าน STEM ในทุกระดับเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
- เสริมสร้างบุคลากรที่มีศักยภาพ ซึ่งอาจเติบโตมาเป็นพนักงานที่มีทักษะสูงของบริษัทหรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในอนาคต
- เสริมสร้างความสัมพันธ์และลดความขัดแย้งกับชุมชนโดยรอบ (มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมจาก 10 โรงเรียน รวม 384 คน และมีระดับความพึงพอใจร้อยละ 97.8 ในปี 2567)
- ส่งเสริมทักษะและการมีส่วนร่วมของพนักงานผ่านกิจกรรมอาสาสมัครด้านการเรียนรู้ (มีพนักงานเข้าร่วม 164 คน ในปี 2567)
ตัวชี้วัดประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม
- ยกระดับการศึกษาและวางรากฐานทักษะการเรียนรู้ด้าน STEM ภาษาอังกฤษ และศิลปะให้กับเด็กประถมศึกษา (นับตั้งแต่เปิดโครงการมีนักเรียนได้รับประโยชน์จากโครงการฯ 977 คน)
- สนับสนุนและสอดคล้องกับเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals–SDGs) ในเป้าหมายย่อยที่ 4.2 4.7 และ 8.6

ระดับอุดมศึกษา
เรามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมประสบการณ์การทำงานจริงด้าน STEM สำหรับนักศึกษาระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษา โดยตั้งเป้าหมายรับนักศึกษากว่า 300 คน ภายในปี 2573 ผ่านโครงการฝึกอบรมและความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำ ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ อาทิ โครงการอาชีวศึกษาทวิภาคี โครงการ SKILLS4TECH และ Harbour.Space University จากประเทศสเปน มีรายละเอียดดังนี้
โครงการอาชีวศึกษาทวิภาคี

กว่า 14 ปี ที่บี.กริม เพาเวอร์ ร่วมมือกับโรงเรียนจิตรลดา (สายวิชาชีพ) วิทยาลัยเทคนิคมาบตาพุด จังหวัดระยอง และสมาคมผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน ในโครงการพัฒนาช่างเทคนิควิศวกรรมระบบไฟฟ้า (V-EsEPC) ในระบบอาชีวศึกษาทวิภาคี (Dual Vocational Education System) ซึ่งเป็นหลักสูตรการศึกษาที่ถือกำเนิดขึ้นในประเทศเยอรมนี และได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยคัดเลือกนักศึกษาสายอาชีพจากวิทยาลัยอาชีวะ เพื่อรับการอบรมควบคู่ไปกับการทำงาน (On-the-Job Training) ในขณะที่ยังคงศึกษาอยู่ มุ่งหวังที่จะพัฒนาทักษะและความรู้ในด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและการซ่อมบำรุงรวมถึงเรียนรู้การปฏิบัติงานจริงให้แก่นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อช่วยยกระดับการศึกษาของเยาวชนและสามารถผลิตบุคลากรที่มีทักษะและความชำนาญในสายอาชีพต่าง ๆ ที่จะสนับสนุนการเติบโตของประเทศ รวมถึงธุรกิจของ บี.กริม ตลอดจนการลดต้นทุนการสรรหาบุคลากรที่ลดลงอีกด้วย โดยมีนักศึกษาทวิภาคีรวม 142 คน ที่ได้เข้าร่วมอบรมโครงการตั้งแต่ปีการศึกษา 2554 ถึง 2567
ตัวชี้วัดประโยชน์ต่อธุรกิจ
- สอดคล้องกับหนึ่งในเป้าหมายของกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของบริษัทว่าด้วยการส่งเสริมการศึกษา/ทักษะด้าน STEM ในทุกระดับเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
- เพิ่มจำนวนกลุ่มบุคลากรที่มีศักยภาพและทักษะที่สอดคล้องกับบี.กริม เพาเวอร์
ตัวชี้วัดประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม
- เพิ่มจำนวนนักเรียน/เยาวชนที่ได้รับการอบรมในระบบอาชีวศึกษาทวิภาคี (นักศึกษาทวิภาคีที่เข้าร่วมโครงการนับตั้งแต่เปิดโครงการรวม 142 คน)
- สนับสนุนและสอดคล้องกับเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals–SDGs) ในเป้าหมายย่อยที่ 4.3 4.4 และ 8.6


โครงการ Skills4Tech - Technical Teaching and Learning for Industry 4.0 Technicians Program

โครงการ Skills4Tech เป็นความร่วมมือของ บี.กริม เพาเวอร์ สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย และสถาบัน STEM Sims, LLC จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเริ่มดำเนินงานในปี 2565 โดยมีเป้าหมายหลักในการพัฒนาศักยภาพครูและอาจารย์ ผ่านแนวทางการสอนสมัยใหม่และเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเสริมสร้างทักษะ STEM และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ที่จำเป็นต่ออุตสาหกรรม ผ่านการเรียนแบบผสมผสาน (Blended Learning) ที่ผสานการเรียนการสอนแบบการบูรณาการการใช้โปรแกรมจำลอง (Simulation)
ในปี 2566-2567 โครงการได้เข้าสู่ระยะที่ 2 (Skills4Tech II) โดยเพิ่มกระบวนการวิจัยปฏิบัติการ (Action Research) เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระดับ ปวช. ในสาขาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ จากการเปรียบเทียบระหว่างการเรียนรู้ผ่าน Simulation กับการเรียนแบบบรรยายทั่วไป ซึ่งพบว่านักเรียนที่เรียนรู้ผ่าน Simulation มีพัฒนาการด้านคณิตศาสตร์เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 70 และโดยรวมทุกวิชาสูงขึ้นร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับวิธีสอนแบบเดิม นอกจากนี้โครงการยังมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายครูต้นแบบ (Master Trainers) เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และเป็นที่ปรึกษาทางวิชาการให้กับครูในสถานศึกษาอื่น ๆ เพื่อขยายผลและต่อยอดแนวทางการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีครูและอาจารย์เข้าร่วมโครงการรวม 17 คน และมีนักเรียนที่ได้รับประโยชน์กว่า 533 คน
เรายังคงมุ่งมั่นที่จะขยายขอบเขตของโครงการ ไปยังสถาบันการศึกษาอื่น ๆ เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อภาคการศึกษา พัฒนาศักยภาพแรงงานสู่ตลาดอุตสาหกรรมยุคใหม่ และเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนไทยในการแข่งขันในเศรษฐกิจดิจิทัล

ตัวชี้วัดประโยชน์ต่อธุรกิจ
- สอดคล้องกับหนึ่งในเป้าหมายของกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของบริษัทว่าด้วยการส่งเสริมการศึกษา/ทักษะด้าน STEM ในทุกระดับเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
- เพิ่มจำนวนกลุ่มบุคลากรที่มีศักยภาพและทักษะที่สอดคล้องกับบี.กริม เพาเวอร์
ตัวชี้วัดประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม
- พัฒนานักศึกษาให้มีทักษะ STEM และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ผ่านการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง ช่วยเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเตรียมความพร้อมสู่ตลาดแรงงาน (นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการนับตั้งแต่เปิดโครงการรวม 533 คน)
- ส่งเสริมศักยภาพครู/อาจารย์ ในการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการสอน สร้างเครือข่ายครูต้นแบบเพื่อขยายองค์ความรู้สู่สถาบันการศึกษาอื่น ๆ (ครู/อาจารย์เข้าร่วมโครงการนับตั้งแต่เปิดโครงการรวม 17 คน)
- สนับสนุนและสอดคล้องกับเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals–SDGs) ในเป้าหมายย่อยที่ 4.3 4.4 และ 8.6
